หลายคน (แม้กระทั่งฉันเอง ในอดีต) เข้าใจว่า โรคซึมเศร้า เกิดจาก ตัวเราเอง ที่คิดไปเอง เหมือนว่าคิดอะไรเองไม่เป็น ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ทำให้เบื่อโลก ไม่อยากอาหาร และอยากจบชีวิตตนเอง
แต่คำว่า “โรค” ก็คือ โรค ค่ะ

ภาพจาก seedpsychology
โรคซึมเศร้า เป็น ความผิดปกติทางการแพทย์ ที่ ต้อง ได้รับการรักษาที่ถูกวิธี และ ต้อง พบแพทย์/จิตแพทย์
โรคซึมเศร้า ต่างจาก อาการเศร้า หมอง ซึม อื่นๆ เพราะ อาการเศร้าเหล่านั้น สามารถหายไปได้ คลี่คลาย และดีขึ้นเองได้ เมื่อได้พูด ปลดปล่อย และมีคนรับฟัง เข้าใจเรา แต่ “โรคซึมเศร้า” มันหายเองไม่ได้เลย ผู้ป่วยโรคนี้นอกจากจะเกิดอาการซึมเศร้า ไร้ชีวิตชีวาแล้ว ยังมี อาการอื่นๆ แทรกซ้อนเข้ามาด้วย เช่น ไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติ ควบคุมอารมณ์ ความรู้สึกไม่ได้ รู้สึกว่าอะไรๆ เปลี่ยนแปลงไปหมดทุกอย่าง ทั้ง พฤติกรรม อารมณ์ ความรู้สึก
ผู้ป่วยโรคซึมเศ้รา จะคิดมากเกินปกติ เห็นอะไรก็ ท้อแท้ และ หมดหวัง สิ้นหวัง นี่คือลักษณะอาการของ “โรค” นะคะ ควบคุมเองไม่ได้ (จะไปว่าเขา ว่าคิดมากเอง คิดเองไม่เป็น ไม่ได้ค่ะ)
อาการหลักๆ ที่เห็นได้ชัด คือ
- นอนหลับๆ ตื่นๆ
- ไม่สนใจอะไรรอบข้างทั้งนั้น
- เก็บตัว ไม่สนใจใคร
- หงุดหงิดง่าย อ่อนไหว และ ขี้ใจน้อย อย่างผิดปกติ
- น้ำหนัก ขึ้น หรือ ลง อย่างเห็นได้ชัด โดยไม่มีสาเหตุ
- เบื่ออาหาร
- ร่างกายอ่อนเพลีย ไร้เรี่ยวแรง
- รู้สึกไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป: เปลี่ยนแปลง ทั้ง อารมณ์ และ ความคิด อะไรๆ ดูแย่ไปหมด เลวร้ายไปเสียทุกอย่าง
- มีอาการทางจิต เช่น คิดว่ามีคนคอยกลั่นแกล้ง มีคนจะทำร้าย มีอาการหูแว่ว
เกณฑ์การวินิจฉัย*
มีอาการดังต่อไปนี้ 5 อาการหรือมากกว่า
- มีอารมณ์ซึมเศร้า (ในเด็กและวัยรุ่นอาจเป็นอารมณ์หงุดหงิดก็ได้)
- ความสนใจหรือความเพลินใจในกิจกรรมต่างๆ แทบทั้งหมดลดลงอย่างมาก
- น้ำหนักลดลงหรือเพิ่มขึ้นมาก (น้ำหนักเปลี่ยนแปลงมากกว่าร้อยละ 5 ต่อเดือน) หรือมีการเบื่ออาหารหรือเจริญอาหารมาก
- นอนไม่หลับ หรือหลับมากไป
- กระวนกระวาย อยู่ไม่สุข หรือเชื่องช้าลง
- อ่อนเพลีย ไร้เรี่ยวแรง
- รู้สึกตนเองไร้ค่า
- สมาธิลดลง ใจลอย หรือลังเลใจไปหมด
- คิดเรื่องการตาย คิดอยากตาย
ทั้งนี้
- ต้องมีอาการในข้อ 1 หรือ 2 อย่างน้อย 1 ข้อ และ
- ต้องมีอาการเป็นอยู่นาน 2 สัปดาห์ขึ้นไป และต้องมีอาการเหล่านี้อยู่เกือบตลอดเวลา แทบทุกวัน ไม่ใช่เป็นๆ หายๆ เป็นเพียงแค่วันสองวันหายไปแล้วกลับมาเป็นใหม่
สามารถดาวน์โหลด แบบสอบถามภาวะอารมณ์เศร้า ได้ที่ คลิกที่นี่
การรักษา
รักษาได้ด้วย ยาแก้เศร้า และ/หรือ พบแพทย์ เพื่อความช่วยเหลือ ชี้แนะ ในการใช้ชีวิต และให้คำปรึกษาเรื่องการปรับตัว เปลี่ยนแปลงมุมมอง ปรับเปลี่ยนโลกทัศน์
ผู้อยู่รอบข้าง ควรคอยสังเกตุพฤติกรรม อาการ ของบุคคลใกล้เคียงเสมอ ว่ามีอาการ การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ มากน้อยเพียงใด และ นานแค่ไหน หากอาการตรงจุด ควรพบแพทย์ทันที และไม่ควรดุด่าว่ากล่าว หรือตำหนิผู้ป่วยนะคะ ควรตระหนักเสมอ ว่า “โรค” ก็คือ “โรค” ค่ะ เป็นความผิดปกติชนิดหนึ่ง รักษาได้ แต่ต้องใช้เวลา
*ข้อมูลเกณฑ์การวินิจฉัย อ้างอิง จาก รพ. รามาธิบดี