Stavanger
อีกเมืองหนึ่งในนอเวย์แห่งนี้ เหมาะมากค่ะ สำหรับใครที่ชอบธรรมชาติ ชมนก ชมไม้ เดินป่า ปีนเขา และไม่กลัว ‘ตกเขา’
สุดๆ เลยล่ะ มาที่นี่แล้วบอกได้คำเดียวว่า ‘ฉั น รั ก เ ข า’ เหลือเกิน ฉันรักเขาจนไม่อาจมีใครได้อีกแล้ว 😀
เขา ชื่อ Preikestolen หรือ the Pulpit Rock เป็นอันดับหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวของเมือง Stavanger แห่งดินแดนสแกนดิเนเวียร์ นอเวย์ ที่ต้องบอกว่ามาแล้ว พ ล า ด ไ ม่ ไ ด้ จ ริ ง ๆ จะเป็นนักเดินตัวยงหรือชอบนั่งรถ ยังไงก็พลาดที่นี่ไม่ได้ ต้องเดินๆๆ อย่างเดียว แล้วจะติดใจ
Preikestolen หรือ the Pulpit Rock เป็นเขาสูง 604 เมตร เหนือน้ำทะเล ทางเดินมีทั้งลาดชัน เป็นหิน เป็นดิน เป็นผา ครบถ้วนทุกรสค่ะ อ ร่ อ ย ร่ า ง ก า ย เดินไปสักพักตอนแรกๆ ก็เจอจุดชมวิวแล้ว แม้จะเหนื่อยแค่ไหน พอเห็นวิวต้องบอกว่า หายเป็นปลิดทิ้งแน่ๆ รับประกันเลย หญิงสาวเดินใส่กางเกงขาสั้น ใส่เสื้อออกกำลังกายกีฬา ขณะที่ชายหนุ่มเดินครึ่งเปลือย ท่อนบนเป็นมัดๆ เห็นลำทำให้ชอบเดินป่าจัง อันนี้ก็อร่อย อ ร่ อ ย ส า ย ต า 😛
ดูเด็กเปลือยไปพลางๆ
หนุ่มสาว เปลือย ท่อนบนท่อนล่าง ก็มีนะคะ
ฉันเดินเขามาเยอะพอควร ปีนป่ายหลายที่ ที่นี่เป็นหนึ่งในบรรดารายชื่อเส้นทางทั้งหมดที่ฉันคิดว่ายังไงๆ ก็ต้องมาอีกให้ได้
ความสูงชัน และหินน้อยใหญ่ตามทาง
ระหว่างทางเดิน มีสัญลักษณ์ ตัว T สีแดง บอกทางตลอด ไม่กลัวหลงค่ะ

ภาพรวม เส้นทางเดิน ไป ตี น เ ข า 😛
วิธีเดินทาง
เริ่มที่ Stavanger ไปรอที่ ท่าเรือ Tau-ferry นั่งไม่ถึง 1 ชั่วโมง บนเรือมีอาหาร ไอศกรีม ที่นั่ง ห้องน้ำ สะดวกสบาย ราคาของแพงเป็นปกติตามวิถีชาวนอเวย์

ทางขึ้นเรือ หน้าตาแบบนี้ (ที่นอเวย์ การเดินทางโดยเรือเป็นเรื่องปกติ ขับรถขึ้นไปได้เล้ย)
(นอกเรื่อง) ขณะรอเรือฉันคุยกับเจ้าหน้าที่เรื่องค่าครองชีพ เธอบอกว่าของที่นอเวย์แพงเป็นปกติอยู่แล้ว แต่คนที่นี่ก็มีความสุข เพราะรายได้ที่ได้ก็สูงด้วย สบายพวกเธอเวลาออกเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ เพราะเมื่อเทียบค่าเงินแล้ว อะไรๆ ก็ถูก ยิ่งถ้าไปเอเชีย ยิ่งถูกไปใหญ่ ลำบากก็คนที่มาเที่ยวนอเวย์นี่สิ ใครมาก็บ่นว่าแพง
ความแพงนี้มีที่มาที่ไปค่ะ ประชากรที่นี่น้อย (ไม่ต่างจากฟินแลนด์) รัฐบาลดูแลดีและสวัสดิการก็ดี ประชาชนเสียภาษี 30 เปอร์เซ็นต์!! เยอะมาก คิดดูสิคะ ทำงานทั้งเดือน เงินหายไปเกือบครึ่ง!! แต่มันแลกมากับการศึกษา (เรียนฟรี) ประกันสุขภาพ และวันลา หากป่วย รัฐบาลออกให้ (ซึ่งหากมองดีๆ ก็คือเงินเราเอง ที่ฝากรัฐบาลในรูปแบบของภาษี 30%) หากมีลูก ผู้เป็นแม่ก็มีวันลามากเป็นปี ผู้เป็นสามีสามารถลาวันทำงานได้ด้วย คือ ในหนึ่งสัปดาห์ทำงานแค่ 4 วัน อาจจะทำ จันทร์-อังคาร หยุดวัน พุธ และทำอีกทีวันพฤหัส-ศุกร์ หรือจะลาศุกร์ แล้วทำงานวันจันทร์-พฤหัส ก็ดี อยากลาอย่างไรก็ได้ ใช้สิทธิ์ของตนได้เสมอ
(เข้าเรื่อง) ลงเรือปุ๊ป ก็ ต่อรถบัส จาก Tau ไปที่ ลานจอดรถ Pulpit Rock ค่ะ นั่งประมาณ 30 นาที พอถึงแล้ว เริ่มเดินได้เลย เดินไปได้ประมาณเกือบ 1 กิโลเมตร จะเจอจุดบันจี้จัมพ์ค่า ใครยังสะใจกับหน้าผาสูงชันไม่พอ ก่อนกลับแวะกระโดดเขาได้

ลงเรือปุ๊ป มีรถบัสสีเขียว มารอเลยค่า หาง่ายมากๆ
จาก ลานจอดรถ Pulpit Rock ไปหน้าตา ปกติเดินกัน 1.30-2 ชั่วโมง ฉันกับเพื่อนเดินไป ถ่ายรูปไป พักไป ใช้เวลาเกือบ 2.30 ชั่วโมง ถึงแล้ว เจอลุงป้าชาวจีนเยอะเลย นักท่องเที่ยวคนอื่นมีมากไม่แพ้กัน ต่างนั่งนอนริมผา ไม่กลัวตกกัน ฉันได้ไปนั่งกับ ‘เขา’ ด้วยล่ะ นั่งที่ ‘ตีน’ เขา เพราะอย่างว่า ‘ฉันรักเขา’ มากค่ะ แม้จะเป็นตีนฉันก็รัก
เห็นลานหินกว้างๆ นี้ คือใกล้จะถึงแล้วค่ะ ฮึบๆ 🙂
‘เขา’ บอกฉันว่า ก่อนฉันมาไม่นาน มี ค น ต ก เ ข า ต า ย !! เพราะมัวแต่ไปชะเง้อ ถ่ายรูป หากฉันรู้ก่อนไป ฉันคงไม่กล้าไปชะโงก ด้อมๆ มองๆ แต่ตอนนั้น ความรักมันพาไป ทั้งกระโดด ทั้งนั่งมองฟ้า และนอนเคียงข้าง ‘เขา’ ทำทุกอย่าง ไม่มีกลัว เพื่อ ‘เขา’ ที่ฉันรัก
นี่แหละนะ ที่ว่า ความรักทำให้คนตาบอด (ขอดราม่า) 😛
ฉันอยู่กับ ‘เขา’ ได้ประมาณ 1 ชั่วโมง ฟ้าเริ่มหมอง เมฆครึ้ม มืดฟ้ามัวดิน “แ ป ะ แ ป ะ” ฝนตกสิค่ะ รีบเดินเลย … เปียก จะเขาไม่เขา ฉันไม่ห่วงแล้ว ไม่รักแล้ว รีบเดินหนี ดุ่มๆ ลงมา ห่วงกล้องคู่ใจ เปียกหมดแล้ว
ฉันถอดเสื้อตรงนั้น ไม่อายประชาชีแล้วค่ะ ถอดมันให้หมด จะหนาวจะเปียกไหม่หวั่นแล้วด้วย เอาเสื้อที่ใส่ข้างในถอดออกมาพันกล้อง แล้วส่วมเสื้อนอกทับ ความเซ็กซี่ของพุงดุ๊ยๆ ของฉันไม่มีใครสนแล้วล่ะ ทุกคนเดินไม่สนใจใครทั้งนั้น
ระหว่างทางลงมีเห็นป้าหัวทองคนหนึ่งเลือดอาบที่ขา ป้าล้มค่า ก็พื้นหินเปียกขนาดนั้น ทางลาดชั้นอีก ต้องมีคนพยุง เจอกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งพยายามขออนุญาตป้าด้วยความหวังดีว่า จะสวดภาวนาให้พระเจ้าคุ้มครอง แต่ดูเหมือนว่าป้าและบรรดาเพื่อนป้าจะไม่ศาสนาเท่าใดนัก บทสนทนาจึงดูเหมือนทะเลาะกันบ้าง เป็นยังไงต่อไปก็ไม่รู้ ฉันก็เดินของฉันต่อไป
อีกประมาณ 30 นาที ต่อมา เดจาวู ค่า เจอคุณลุงคนจีนร้องครวญครางเบาๆ ในสภาพเดียวกับคุณป้าคนก่อน ลุงน่าจะล้มเช่นกัน ตอนนั้นฝนตกหนักกว่าเก่ามาก ล้มกันหลายคน เหมือนฟ้าจะโกรธใครมา ไม่ก็ฟ้ากลั้นฉี่มานาน ปล่อยทีเดียว กระหน่ำจนผู้คนตกใจ
ฉันลงเขาอย่างปลอดภัย ใช้เวลาลงแค่ 1.30 นาที ด้วยเนื้อตัวเปียกแฉะเหมือนเล่นสงกรานต์ หนาวค่ะ เริ่มเย็นแล้วด้วย ลมแรง
ถือว่าลมฟ้าเป็นอุปสรรคของความรัก
‘ฉั น รั ก เ ข า’
แต่ฉันจะทำให้รักของเราสมหวัง
เจอกันใหม่ ต้องได้ขึ้นไปอีกครั้งเร็วๆ นี้ แน่ๆ 🙂
หวังว่า คุณลุง คุณป้า ทั้งสองคน จะหายดี และลงจากเขาได้ปลอดภัย