wanderfulminds

When you wonder, your mind wanders, and you realize how wonderful everything is

  • Home
  • Stories & Guides
  • Facts & Tips
  • Brains & Minds
  • Languages
  • Education
  • Hire me!
  • Contact
You are here: Home / Education / Study Plan / Statement of Purpose

Study Plan / Statement of Purpose

October 30, 2015 By KaiMook McWilla Malany 3 Comments

 

ภาพจาก lodestarsolutions ดอทคอม

เวลาจะสมัครเรียนต่อที่ไหน จะขอทุนอะไร มหาวิทยาลัย และองค์กรที่ให้ทุนต่างๆ มักขอให้ผู้สมัคร เขียน Statement of Purpose หรือ Motivation Letter หรือ บางที ก็ให้เขียน Study Plan เพิ่มเติมแยกออกมาจากเอกสารอื่นๆ

บางครั้งก็ขอแค่ Study Plan / Statement of Purpose / Motivation Letter อย่างเดียว เพื่อ ใช้เป็นข้อมูลประกอบการคัดเลือก กับ ผลการเรียน ประวัติ หรือ เอกสารต่างๆ ที่เราแนบไป

ในมุมมองของฉันแล้ว ทั้งสามอย่าง ไม่ว่าจะ

  • Study Plan
  • Statement of Purpose หรือ
  • Motivation Letter

ล้วนคาบเกี่ยวกันหมดนะ แล้วแต่ว่าจะเรียกว่าอะไร อาจจะแตกต่างกันบ้างในบางมุมเล็กๆ ซึ่งฉันจะยังไม่ขอแตกรายละเอียด ณ ตรงนี้

แล้วเราควรเขียนอะไรดีล่ะ

เราต้องรู้ก่อนค่ะ ว่า คณะกรรมการ ปลายทางที่เราสมัครไป ต้องการอะไร จากเรากันแน่ ซึ่งก็จะแตกต่างกันไป ตามแต่ละมหาวิทยาลัย ตามสาขาวิชา และ ตามองค์กรที่เราสมัคร (เช่น สมัครเพื่อไปแลกเปลี่ยน สมัครทุนวิจัย สมัครทุนเรียนต่อ หรือ สมัครเพื่อไปทำอะไร)

โดยหลักแล้ว เค้าแค่อยาก “รู้จักเรา” ค่ะ แล้วโอกาสที่เราจะให้เค้ารู้จักเรามากขึ้น ก็โดยการเขียนบรรยายตัวตนของเรา ลงไปใน Study Plan / Statement of Purpose นี่แหละค่ะ 🙂

จริงๆ แล้ว ฉันว่า ไม่มีถูก ไม่มีผิด นะคะ ว่าจะเขียนอะไร แบบไหนยังไง เพราะมันคือ การแสดงความเป็นของตัวเองอย่างหนึ่ง ทำให้เค้ารู้ว่าเราเป็นใคร ทั้งนี้ทั้งนั้น หากให้ฉัน สรุปเป็นข้อๆ แล้ว จะได้รายละเอียดคร่าวๆ ข้างล่างนี้

เพื่อนๆ ลองตั้งคำถามเหล่านี้ดูนะคะ แล้วตอบกับตัวเองว่าสิ่งที่เราเขียน ตอบโจทย์ เหล่านี้หรือไม่

  1. เราเป็นใคร 
  2. มาจากไหน 
  3. อะไรทำให้เราแตกต่างจากผู้สมัครคนอื่น (มีผู้สมัครมากมาย เพราะอะไรเค้าถึงต้องเลือกเรา)
  4. เหตุใดเราถึงเลือกไปเรียนที่นี่ 
  5. มีการวางแผนในอนาคตไว้อย่างไร 
  6. จะเรียนอะไรบ้าง 
  7. จะทำอะไรกับที่เราเรียน 
  8. มีมหาวิทยาลัยมากมายที่เปิดการเรียนการสอนสาขานี้ ทำไมถึงเลือกที่นี่ (กรณีสมัครทุน ทำไมถึงเลือกทุนนี้)
  9. เลือกเรียนสาขานี้ เพราะอะไร 
  10. เคยเรียน หรือ มีประสบการณ์ใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับสาขานี้ มาก่อนหรือไม่
  11. มีรายวิชา หรือ หัวข้ออะไรบ้างในสาขานั้นๆ ที่เราสนใจเป็นพิเศษ เพราะอะไร
  12. งานวิจัยที่สนใจ
  13. หากขอทุนไปเรียนประเทศอื่นๆ ทำไมถึงเลือกประเทศนั้น
  14. สาขาที่สนใจนี้ เชื่อมโยงกับแผนการในอนาคต หรือ อาชีพการงานของเรา อย่างไรบ้าง

ข้อ 14 หากไม่เชื่อมโยงเลย คือ เราสมัครไปเรียน ต่างสาขา จากที่คุ้นเคย กรณีนี้เราต้องอธิบายให้ได้ว่าทำไมเราถึงเปลี่ยนสาย มีแรงบันดาลใจอะไร หรือ มีสิ่งใดที่มากระตุ้นเรากันแน่ ในกรณีนี้ฉันแนะนำว่าควร “แสดงให้สถาบันการศึกษาหรือองค์กรที่ให้ทุนนั้นๆ เห็นว่าเรา “มีความตั้งใจจริง” และ “มีค่า” พอสมควรที่จะได้รับเลือก”

หลักการเขียน

เขียนให้ ตรงประเด็น และ เข้าใจง่าย ด้วยนะคะ คณะกรรมการต้องอ่านเอกสารของหลายคน เค้าไม่มีเวลามานั่งแกะประเด็นที่เราเขียนอยู่แล้ว พยายามทำให้ดึงดูดมากที่สุด และเป็น “รูปธรรม” มากที่สุด เช่น ถ้าเราสมัครเรียนด้านประวัติศาสตร์ แล้วเขียนเพียงแค่ว่า “ฉันชอบเรียนประวัติศาสตร์มาก เพราะว่าประวัติศาสตร์น่าสนใจ” แบบนี้ยังไงๆ ก็ไม่ผ่านค่ะ 🙁

  • ผู้เขียนต้องตอบให้ได้ว่า “ทำไมถึงชอบเรียน” และ “ประวัติศาสตร์ (หรือสาขาวิชานั้นๆ) น่าสนใจอย่างไร” 

การแก้ไข คำตอบ ข้างต้น

  • แทนที่จะบอกว่า “ฉันชอบเรียนประวัติศาสตร์มาก” เราต้อง อธิบาย/ให้เหตุผล ว่า ชอบ เพราะอะไร และ
  • แทนที่จะบอกว่า “ประวัติศาสตร์น่าสนใจ”  เราต้อง อธิบาย/ให้เหตุผล ว่า ชอบ เพราะอะไร อย่างไร

ย้ำ: สิ่งที่เป็น นามธรรม ทั้งหลาย หรือสิ่งที่ จับต้องไม่ได้ เช่น คำว่า “ชอบ” หรือ “น่าสนใจ” จากตัวอย่างข้างต้น ผู้เขียน/ผู้สมัครอย่างเรา ต้องเอามาขยายความ อธิบายให้ชัดเจน ให้เป็น รูปธรรม ให้ได้ นะคะ เพราะผู้อ่าน/คณะกรรมการ เค้าไม่สามารถเข้าใจ หรือ อ่านใจเราได้ ว่าเราหมายความว่าอะไร

ท้ายที่สุด หากเป็นไปได้เราไม่ต้องชมมหาวิทยาลัยนั้นๆ ก็ได้นะคะ โดยส่วนตัว ฉันคิดว่าไม่สำคัญเท่าไร เพราะหากเราสนใจสมัครเรียนที่นั่นแล้ว นั่นหมายความว่า เราสนใจมหาวิทยาลัยนั้นอยู่แล้ว มหาวิทยาลัยนั้นดึงดูดเรา หรือพูดง่ายๆ ก็คือ “เพราะมหาวิทยาลัยดี เราจึงสมัคร” คณะกรรมการเค้ารู้อยู่แล้ว ผู้สมัครควรเอาปริมาณหน้ากระดาษที่มีไปเขียนบรรยายแนะนำตัวเราให้เค้า “รู้จักเรา” มากกว่าค่ะ

หากต้องการเขียนชม มหาวิทยาลัย หรือ สถาบัน นั้นจริงๆ เขียนได้ค่ะ แต่ไม่ควรเยอะมาก และสิ่งที่เราเขียน ก็ไม่ควรเป็นเรื่องทั่วไป ที่ใครๆ ก็รู้ นะคะ เช่น หากจะเขียนบอกว่า “เพราะมหาวิทยาลัยดี การแข่งขันสูง อยากเข้าเรียนให้ได้” แบบนี้ ไม่เขียนจะดีกว่าค่ะ

แล้วก็ อย่าเขียนเกินจำนวนคำ ที่เขากำหนด นะคะ

 

(อันนี้ฉันเขียนคร่าวๆ หากมีจุดไหนไม่เข้าใจถามมาได้เลยน้า แล้วจะกลับมาแก้ไข เพิ่มเติม ภายหลังให้ค่ะ)

 


  • รับแก้/ตรวจ/เขียนงาน คลิกที่นี่
  • อ่านบทความอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการขอทุน/การเขียน/การศึกษา คลิกที่นี่

 

Filed Under: Education Tagged With: Motivation letter, SOP, Study Plan, การเขียน

Comments

  1. amp says

    October 30, 2015 at 4:23 pm

    รออ่านต่อออ
    555 เขียนจบแล้วโพสด้วย

    Reply
    • KaiMook McWilla Malany says

      October 31, 2015 at 2:15 pm

      ได้เลยค่า 😀

      Reply
  2. Fah Isaree says

    October 31, 2015 at 2:14 pm

    มีประโยชน์มากเลยพี่ไข่มุก
    นี่กำลังเตรียมตัวไปเรียนต่ออยู่

    รออ่านคำแนะนำดีๆอยู่นะค้าาา

    Reply

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

KAIMOOK MALANY

ฉันโตมากับการไม่อยู่เป็นหลักแหล่ง ฉันสู้ ดิ้นรน ปรับตัว เป็นฉันในวันนี้ ที่ยิ้มเก่ง ช่างพูด กล้าถาม ชื่นชอบการพบปะผู้คน รักการเรียนรู้ หลงรักการผจญภัย และอยู่อย่างสันโดษได้ นอกจากจะเพราะครอบครัวที่รักและคอยให้การสนับสนุนฉันแล้ว ส่วนหนึ่งยังเป็นเพราะตัวฉันที่ไม่ชอบอยู่นิ่ง (wander) สิ่งที่ฉันได้เจอ ศึกษาค้นคว้าและเรียนรู้เป็นความน่าหลงใหล (wonderful) ที่ฉันอยากจะแลกเปลี่ยนแบ่งปัน ทุกอย่างที่เขียนขึ้นกลั่นออกมาจากใจฉันเองค่ะ (minds)

Join the Social Conversation

  • Facebook
  • Instagram
  • Pinterest

Copyright © 2015-2019 · Squiddy Productions · This site powered on interstellar cognitions · Privacy