แนะนำทุนรัฐบาลเกาหลี KGSP ระดับปริญญาโท-เอก
- แนะนำทุน วิธีการสมัครทุน (ตอนที่ 1: คลิกที่นี่)
- การขอเอกสาร/รับรองเอกสาร, Letter of Introduction, Statement of Purpose และ ส่วนอื่นๆ ในเอกสารประกอบการสมัคร (ตอนที่ 2: คลิกที่นี่)
ในตอนนี้ บทความที่เรื่อง หัวข้อ “แนะนำทุนรัฐบาลเกาหลี KGSP ระดับปริญญาโท-เอก” ครอบคลุมเรื่อง
- Recommendation Letter
- เคล็ดลับการเขียนใบสมัคร
- การสอบสัมภาษณ์

แอ๊ม: ทุนรัฐบาลเกาหลีปี 2016
Recommendation Letter
เอกสารนี้เป็นอีกอย่างที่สำคัญไม่แพ้กัน การเลือกหาอาจารย์ที่เหมาะสมจะเขียนจดหมายแนะนำตัวให้เราเป็นอะไรที่ยากและต้องคิดเยอะมาก ในประกาศขอจดหมาย 1 ฉบับ แต่เราแอบแนบไปสองฉบับ ฉบับนึงจากอาจารย์ในเมเจอร์ตัวเอง อีกฉบับจากอาจารย์เกาหลี เพราะเราต้องการให้เขาเห็นว่าเรามีความสนใจที่กว้างนะ สนใจทั้งเกาหลีและเมเจอร์ตัวเองจริงๆ แนะนำว่า เต็มที่จะแนบได้คือ 2 ฉบับนะคะ เพราะถ้าสามจะเยอะเกินไป และอาจจะโดนครหาได้ว่าทำผิดกฎ (แฮ่ แค่นี้ก็ผิดกฎแล้วเน๊อะ)
ทริค
เราจะสรุปทริคเป็นข้อๆ แบบสั้นๆ เร็วๆ สำหรับเอกสารให้ก่อนนะคะ
- พิมพ์ใบสมัคร ห้ามเขียน เพราะยังไงตัวพิมพ์ก็อ่านง่ายกว่าลายมือเราแน่ๆ
- ถ้าทำได้ แนบเรซูเม่และพอร์ทโฟลิโอแบบย่อๆ ของตัวเองไปให้เขาด้วย เราแนบแทบทุกอย่างที่เกี่ยวกับเมเจอร์ตัวเองและเกาหลีไปเผื่อ ยอมเสียตังค์ค่าแปลใบเกียรติบัตรไปอีกหนึ่งใบ เพื่อให้เขารู้ว่าเรามีผลงานอะไรบ้าง
- ถ้าเป็นกิจกรรมที่ไม่มีเกียรติบัตร ให้แนบรูปและเขียนคำบรรยายไปแทนได้ค่ะ
- จัดเรียงลำดับเอกสารให้เรียบร้อย หนีบคลิปไปด้วยให้เป็นระเบียบ ทำให้อ่านง่าย สะอาด เรียบร้อยที่สุด ให้รู้สึกได้ว่าเราใส่ใจนะ
- อย่าลืมเขียนเลขและชื่อเอกสารกำกับหัวมุมตามประกาศให้เรียบร้อยด้วย
- สำหรับคนที่ส่งเอกสารทางไปรษณีย์ ต้องส่งลงทะเบียนนะคะอย่างน้อย เพราะเราจำเป็นต้องติดตามเอกสารของเราได้ และแน่ใจว่าจะไม่หาย พยายามติดตามสถานะให้ดีและอีเมลยืนยันกับปลายทาง เมื่อสถานะปรากฏว่าได้รับเอกสารเรียบร้อยแล้วด้วยค่ะ
จบตรงนี้ สามารถนั่งรอลุ้นไปสัมภาษณ์กันต่อได้เลย
ทริคสำหรับช่วงสอบสัมภาษณ์
ส่วนของการสอบสัมภาษณ์ เราไม่มีประสบการณ์สำหรับช่องทางสถานทูตจริงๆ ถ้ายังไงต้องขอโทษด้วยนะคะที่จะแนะนำได้ละเอียดจริงๆ จะเป็นช่องทางมหาวิทยาลัยมากกว่า เมื่อเรารอทางมหาวิทยาลัยยืนยันการสอบสัมภาษณ์ ก็ได้เวลาเตรียมตัวสอบสัมภาษณ์กัน
ส่วนใหญ่มหาวิทยาลัยจะส่งอีเมลมายืนยันว่าเราผ่านการพิจารณา ได้สอบสัมภ
าษณ์ช่วงก่อนหน้าจะสัมภาษณ์ประมาณ 2 – 3 วัน เหมือนพอมีเวลาให้เราเตรียมตัว เตรียมใจและตื่นเต้นได้นิดนึง ส่วนใหญ่จะบอกมาด้วยว่าจะสัมภาษณ์เป็นเกาหลีหรืออังกฤษ เราได้อีเมลตอนเราอยู่บนรถไฟใต้ดิน กลับบ้านปุ๊บนี่รีบเปิดคอมฯ มาเขียนสคริปก่อน ฮ่าๆๆ เป็นคนต้องมีสคริปไว้ให้อุ่นใจ วิธีการสัมภาษณ์ของมหาวิทยาลัยจะมีฮิตๆ อยู่ 2 แบบ คือ โทรเข้าโทรศัพท์ หรือสไกป์ค่ะ ของเราไม่รู้โชคดีหรือโชคร้าย แต่เราได้สไกป์ ทำให้รู้ว่า ดูสคริปที่เขียนไว้ไม่ได้นะ
ถ้าทำได้ เราแนะนำให้ซ้อมสัมภาษณ์กับใครซักคน พอดีเรามีเพื่อนที่ว่างอยู่พอดี เลยมาช่วยเป็นคู่ซ้อมให้ประมาณสามสี่รอบ นั่งเก็งคำถามที่คิดว่าน่าจะถูกถาม ตั้งแต่ถามทั่วไป เป็นใคร ชื่ออะไร เรื่องการปรับตัวจนถึงหัวข้อวิจัย ซ้อมครบแล้วเลยมั่นใจขึ้น พร้อมเจอของจริง
ในวันสัมภาษณ์จริงๆ นี่เราแทบจะปิดบ้านเลย บอกทุกคนว่าขออยู่ในห้องตัวเอง ไม่ให้ใครมาเรียกจนกว่าจะออกไปเอง นอนเร็ว ตื่นเช้า อาบน้ำ กินข้าว แต่งตัวใส่ชุดนิสิตเรียบร้อย นั่งรอ (ตอนนั้นสัมภาษณ์ตอนเช้าค่ะ ทับเวลาเรียนด้วย เราเลยขออาจารย์ที่คณะว่าจะเข้าสาย) มีการเทสต์เสียงก่อนนิดหน่อย จากนั้นก็ถึงคิวเราสัมภาษณ์ ตอนโดนสัมภาษณ์คือ รู้สึกว่าทุกอย่างผ่านไปเร็วมาก สคริปที่เขียนไว้ไม่ได้พูดตามเลย เพราะมีเซอร์ไพร์สที่อาจารย์ที่สัมภาษณ์เรา ดันสัมภาษณ์เราเป็นภาษาเกาหลี ตกใจแทบสิ้นสติ แต่ก็ค่อยๆ ถูๆ ไถๆ ไปเท่าที่สกิลภาษาเกาหลีขั้นต้นของตัวเองจะอำนวย เราพูดประโยคแรกเป็นเกาหลี แล้วค่อยอธิบายรายละเอียดเป็นภาษาอังกฤษ ทำให้เขารู้สึกว่าเราพยายามที่สุดแล้วไปก่อน อีกอย่างคือ ร่าเริงแจ่มใสและเป็นตัวของตัวเอง ค่อยๆพูด พูดให้ชัดเจน ไม่ต้องคิดมากว่าเราต้องรัวเร็วใส่กรรมการ
หลังจากนั้น มหาวิทยาลัยจะส่งอีเมลมาหาเราว่า เราผ่านรอบสัมภาษณ์และมหาวิทยาลัยส่งชื่อเราไปเป็นตัวแทนมหาวิทยาลัยให้รัฐบาลเลือกต่อไปในรอบสอง ถ้าได้รับอีเมลแล้ว ที่เหลือที่ทำได้คือ สวดมนต์และเตรียมใจเผื่ออย่างเดียวค่ะ ฮ่าๆๆ เพราะรอบสองของรัฐบาล คัดเลือกจากเอกสารอย่างเดียว ไม่มีการเรียกสัมภาษณ์ รู้ผลอีกทีคือตอนผลออกเลย ถ้าผ่านรอบสอง คอนเฟิร์มได้เยอะแล้วว่ามีลุ้นได้ทุนแน่นอนค่ะ (สำหรับช่องทางมหาวิทยาลัย ส่วนของช่องสถานทูต ต้องไปเจอกับการสัมภาษณ์ของแต่ละมหาวิทยาลัยอีกทีเน๊อะ)

เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ 😀
เล่าหมดเปลือกมากแล้ว ไม่เคยพิมพ์เยอะและละเอียดขนาดนี้ ฮ่าๆๆ ยังไงเราหวังว่า ประสบการณ์ของเราจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นที่แว่บมาอ่านแล้วสนใจบ้างไม่มากก็น้อยนะคะ เราเชื่อว่าเวลาเราอยากได้อะไร เราต้องลงทุนด้วยอะไรบางอย่างเสมอ ไม่ว่าจะแรงกายหรือแรงใจ มันจะเหนื่อยมากและท้อมากระหว่างที่ทำ รู้สึกไม่มั่นคงด้วยว่าทำไปแล้วจะได้ ซึ่งก็จริง เพราะคนที่ได้ทุนไม่ใช่คนส่วนใหญ่ แต่เป็นคนส่วนน้อย เราเองเคยสมัครทุนนี้รอบปริญญาตรีแล้วไม่ได้มาก่อนเหมือนกัน ตอนนั้นก็เสียใจมาก แต่สุดท้ายก็เอาใบสมัครตัวเองมาลองดูใหม่ เราเลยมาพิจารณาจุดอ่อนตัวเองได้ เอามาแก้แล้วเขียนใหม่ รู้สึกเหนื่อยกับการพยายามมาหลายรอบ หลายหนเหมือนกัน เรารู้ว่า การพยายามมันเหนื่อย แต่ถ้าเราพยายามอย่างน้อยมันก็ทำให้เรามีโอกาสได้อย่างน้อย 1 เปอร์เซ็นต์ เราเป็นกำลังใจให้ทุกคนในการพยายามทำให้โอกาส 1 เปอร์เซ็นต์นั้นเป็นจริงนะคะ 🙂
มีอะไร สามารถส่งมาถามได้ จะพยายามแหวกเวลาและกองการบ้านมาตอบ
ปล. สุดท้ายจริงๆ ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงตอนจบค่ะ”
อ่าน บทความการศึกษาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง คลิกที่นี่
- แนะนำทุนรัฐบาลเกาหลี KGSP ระดับปริญญาโท-เอก 1 คลิกที่นี่
- แนะนำทุนรัฐบาลเกาหลี KGSP ระดับปริญญาโท-เอก 2 คลิกที่นี่
- หากมีคำถาม หรือ ข้อสงสัยใดๆ ทิ้งคอมเมนต์ไว้ใต้โพสได้เลยนะคะ ?
- เพื่อนทุนเกาหลีในเครือ จะมาตอบให้ด้วยความเต็มใจ ไม่มีกั๊ก ค่า
เอกสารป.ตรี เช่นทรานสคริป ใบรับรองที่ขอเป็นภาษาอังกฤษ จำเป็นต้องนำไปรับรองเอกสารที่กงสุลไหมค่ะ
สวัสดีค่าา ถ้าเอกสารเป็นทางการมากจาก สนง/กระทรวง/มหาวิทยาลัย (และอื่นๆ) ที่น่าเชื่อถือ และเป็นภาษาอังกฤษ แล้ว ไม่ต้องเอาไปรับรองค้าา 🙂
มาช่วยยืนยันด้วยอีกแรง ไม่ต้องค่า
ยกเว้นแค่เอกสารที่ต้นฉบับเป็นภาษาไทย เช่น สูติบัตร ทะเบียนบ้าน
อันนั้นต้องให้กงสุลรับรอง ทั้งสำเนาไทยและอังกฤษนะคะ ::))
อยากทราบว่า Form การสมัครเหมือนเดิมทุกปีหรือเปล่าค่ะ ?
สวัสดีค่ะ โดยรวมเท่าที่จำได้สองสามปีที่ดูมา เอกสารคล้ายๆ กันเลยค่ะ มีแตกต่างบ้างนิดน่อย แต่หลักๆ ก็ไปในแนวทางเดียวกันค่ะ:)
สอบถามหน่อยค่ะ เข้าไปดูรายชื่อมหาวิทยาลัย ในบางมหาลัยเค้าจะเขียนประเภทหอพักกับค่าหอไว้ คือเราต้องจ่ายส่วยนีเองเหรอค่ะ
สวัสดีค่าา ตอบช้าหน่อยนึง ต้องขออภัยด้วยค่ะ ช่วงนี้เป็นช่วงดินทางเยอะ — คำตอบคือ ” เงินรายเดือนที่ทุนให้มา เราต้องจัดสรรปันส่วนเองค่ะ ในนั้นคือรวมค่าที่พักไว้แล้วค่ะ” 🙂
สวัสดีค่ะ สอบถามค่ะ Letter of recommendation คือหลังจากได้มาจากอาจารย์ที่เราให้เขียนให้ เราห้ามต้องเปิดซองเลยใช้รึป่าวค่ะ เพราะเห็นตรงส่วนท้ายของฟอร์มเขียนว่าให้ปิดผนึกแล้วเซ็นบนผนึกมาด้วย มีถามเรื่องบางมหาลัยแจ้งค่าหอพักในรายละเอียดการสมัครด้วย แปลว่าค่าหอพักเราต้องออกเองใช่รึอ่าวค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณ pekky ใช่แล้วค่ะ ห้ามเปิดซองเลย ให้ส่งไปแบบที่ยัมีผนึกยังอยู่ค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณ pekky ใช่แล้วค่ะ ห้ามเปิดซองเลย ให้ส่งไปแบบที่ยัมีผนึกยังอยู่ค่ะ (เซ็นต์ผนึกเพื่อให้รู้ว่าผนึกไม่ได้โดนเปิดมาก่อน) เรื่องค่าหอพัก ขึ้นอยู่กับทุนที่ได้รับว่าครอบคลุมไหมค่ะ หากครอบคลุมเราก็ไม่ต้องจ่ายเลยค่ะ:)