เมื่อเกือบสิบปีก่อน กว่าจะได้โทรกลับไทยแต่ละทีจากต่างประเทศนี่ลำบากแสนเข็ญ ตระเวนหาร้านขายบัตรโทรศัพท์ทางไกล กดหมายเลขรหัส ค่าโทรก็แพงแสนแพง ตอนนี้อะไรๆ ก็สะดวกไปหมด แค่คลิกเดียว กดปุ๊ป ติดปั๊ป ไม่ต้องเสียเงินค่าโทรศัพท์เพิ่มด้วย มีอินเตอร์เน็ตไร้สายแทบทุกที่ไป
ไหนจะแอพลิเคชั่นมากมายสมัยนี้ที่ทำให้ไกลเหมือนใกล้ ครอบครัวที่ห่างกลับอยู่ใกล้แค่เอื้อม คนที่รักก็ไม่ไปไหน อยู่กับเราเสมอ (กรณีไม่ปันใจไปให้คนอื่นนะคะ)
เขียนไปก็ทำให้ฉันนึกถึงหนังจีนสมัยก่อน
ตัวละครเดินทางออกจากบ้าน หอบหิ้วเสบียงอาหาร เดินข้ามป่าข้ามเขาท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บ ยิงธนูจับกวางจับกระต่าย ผิงไฟทำอาหาร นอนบนใบไม้ในถ้ำ …
เขาทำได้อย่างไร
ฉันล่ะสงสัยจริง
แค่ฉันตอนนี้นะ ฉันเดินวันละประมาณ 10-12 กิโลเมตรตามแนวป่าลัดเลาะเข้าเมืองเพื่อเข้าไปมหาวิทยาลัยและซื้อของในเมือง แล้วเดินกลับมาบ้านพัก ท่ามกลางอากาศที่กำลังแปรปรวน ลม ฝน และแดดในวันเดียวกัน แบกหนังสือ และเสบียงอาหารกลับบ้าน ก็เหนื่อยแทบแย่แล้ว ให้เดินบางวันน่ะพอไหวค่ะ แต่ให้เดินแบบนี้ทุกวันอย่างที่ทำอยู่ คงต้องขอลา ด้วยเหตุผลสามประการ ดังนี้
- เวลา
- ฉันเรียน 8 โมงเช้า เดินไปเรียนใช้เวลา 40 นาที ให้ตื่นนอนมาอาบน้ำ ทำอาหารกินเอง ออกจากบ้าน 7 โมง แล้วเดินลากสังขารไปมอ ฉันขอลา ไหนบางวันต้องเดินเข้าเมืองซื้อนมซื้อผลไม้ แล้วกลับมาทำการบ้าน เขียนงานให้เสร็จ ฉันขอเอาเวลาที่มีอ่านหนังสือดีกว่านะ
- อากาศ
- อากาศตอนนี้แปรปรวนเสียเหลือเกินค่ะ ถือร่ม ใส่เสื้อกันหนาว สักพักก็ร้อน เดินเยอะก็เหงื่อออก ตกเย็นลมแรง ขณะที่พอหน้าหนาวเข้ามาเยือนฉันต้องเดินบนหิมะกับพื้นที่ลื่นๆ ท่ามกลางอากาศติดลบ 30 หรือ 40 องศา กว่าจะถึงบ้านคงหน้าลอกเป็นแผ่นพอดี
- เบื่อ
- อันนี้สำคัญมาก มันคือความจืดชืดไร้สีสันของบรรยากาศริมทางเดิน ป่าไม้ตามทางที่สูงเขียวไร้สีอื่นในยามฤดูใบไม้ผลิ และพื้นดินอันขาวโพลนปกคลุมด้วยหิมะยามฤดูหนาว เหมือนเดิมเป๊ะแบบนี้ตลอดทาง ไม่มีสิ่งอื่นใดมาดึงดูดหรือเป็นจุดเด่นอะไรให้จดจำเสียเลย เดินแบบนี้ทีไร ฉันรู้สึก “อิ่ม” กับธรรมชาติ ถึงมอทีไร …หลับทุกที
ข้อสามเรื่องความเบื่อเนี่ย ขอแก้ตัวนะคะว่าถ้าไม่มีภารกิจทางโลกอะไรที่ต้องทำ หรือการงานที่ต้องเผชิญอยู่อย่างทุกวันนี้ ฉันจะรักและมีความสุขกับมันมาก ดังนั้นฉันจึงต้องหาความสมดุลของชีวิตให้ได้
กลับไปเรื่องหนังจีน ฉันล่ะทึ่งกับตัวละครเป็นที่สุด ไม่ใช่แต่ในหนังจีนนะ คนที่อพยพหรือที่ต้องดิ้นรนในดินแดนใหม่ๆ ในโลกแห่งความเป็นจริง ยิ่งน่าทึ่งไปใหญ่ ไหนจะปัจจัยภายนอก เสบียงอาหารและอากาศดังกล่าวไปแล้วเอย ยังจะมีปัจจัยภายใน ความห่างไกล ความเหงา และความคิดถึงเข้ามาแทรกอีก
ไม่รู้ว่าคนสมัยก่อนอึดกว่าคนสมัยนี้
หรือคนเราทั้งสองยุคอึดเหมือนกัน
แต่ดิ้นรนกันคนละเรื่องก็ไม่รู้
Leave a Reply